แนะนำเทคนิคดูแลระบบแอร์ ให้ใช้งานได้นาน ไม่ต้องเข้าอู่ซ่อมบ่อย

ควรนำรถยนต์เข้าอู่ซ่อมโตโยต้า เก่งๆ เพื่อดูแลระบบแอร์รถยนต์เมื่อไหร่บ้าง?

หากใครที่ต้องขับรถเดินทางในช่วงสายจรดบ่ายของเมืองไทยในหน้าร้อน จะต้องรู้ดีว่าแม้รถยนต์ของคุณจะแอร์แต่ก็แพ้อากาศที่ร้อนฉ่าภายนอก ฉะนั้นแอร์รถยนต์ของคุณในช่วงนี้จึงต้องทำงานหนักมาก หากไม่ดูแลรักษาแอร์รถยนต์ให้ถูกวิธี คุณอาจจะต้องพารถยนต์คู่ใจเข้าอู่ซ่อมโตโยต้า เก่งๆ สักที่ เพื่อซ่อมแอร์ที่เสียในหน้าร้อนนี้อย่างแน่นอน 

ในบทความนี้ไฮบริดคาร์ ประเทศไทย จึงขอมาแชร์เทคนิคและการดูแลรักษาระบบแอร์รถยนต์ของคุณให้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพได้อย่างยาวนานมาฝากกัน เพราะการดูแลและรักษาระบบแอร์ของรถอย่างเหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถขับขี่ไปในสภาพอากาศที่ร้อนระอุ ได้สบายตัวและสบายใจได้อย่างยาวนาน

ควรเอารถยนต์เข้าอู่ซ่อมโตโยต้า เก่งๆ เพื่อตรวจเช็กระบบแอร์เมื่อไหร่บ้าง?

• ทุก ๆ ระยะทางประมาณ 10,000 – 15,000 กม.
  สิ่งที่ควรทำคือ ควรเปลี่ยนฟิลเตอร์แอร์หรือไส้กรองแอร์ (Cabin Air Filter) ตามคำแนะนำของผู้ผลิตหรืออย่างน้อย ทุก 10,000 – 15,000 กิโลเมตร เพราะฟิลเตอร์แอร์คือแผ่นกรองที่จะช่วยกรองอากาศ ก่อนที่ลมเย็นจากช่องแอร์จะเข้าไปยังห้องโดยสาร มีหน้าที่ในการดักจับฝุ่นละออง สิ่งสกปรกหรือเส้นผมไม่ให้ผ่านเข้าไปยังห้องโดยสาร ซึ่งการทำความสะอาดหรือเปลี่ยนฟิลเตอร์จะช่วยให้ระบบแอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย
• ทุก ๆ ระยะทางประมาณ 20,000 กม.
  เมื่อขับรถเข้าสู่ระยะ 20,000 กม. คุณควรนำรถยนต์เข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมโตโยต้า เก่งๆ เพื่อล้างแอร์รถยนต์และทำความสะอาดคอยล์แอร์ รวมถึงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันคอมเพรสเซอร์แอร์ด้วย ข้อควงระวังก็คือจะต้องปล่อยสารทำความเย็นเก่าออกให้หมดก่อนถึงจะสามารถถ่ายน้ำมันคอมเพรสเซอร์ได้ เพียงเท่านี้ก็ช่วยถนอมอายุการใช้งานของแอร์รถยนต์ได้เป็นอย่างดี

การล้างแอร์รถยนต์สามารถทำได้ 3 แบบ ดังนี้

• การล้างตู้แอร์แบบถอดและรื้อตู้แอร์ออกมา
  เพื่อนำเอาคอยล์เย็นมาล้างทำความสะอาด ซึ่งน้ำยาทำความสะอาดที่ช่างเลือกใช้ก็จะแตกต่างกันไป และตรงนี้ก็คือสิ่งที่คุณควรระวังเนื่องจากหากคุณเลือกจ้างราคาถูก ก็อาจจะต้องเจอกับการใช้ผงซักฟอกหรือโซดาไฟราคาถูก แต่สารเหล่านี้ล้างออกยากและอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณได้ ถ้าล้างออกไปไม่หมด ทางที่ดีการเลือกใช้บริการอู่ซ่อมโตโยต้า เก่งๆ ก็จะสร้างความมั่นใจให้คุณได้มากกว่า
• การล้างตู้แอร์แบบไม่ถอดออกมา
  การล้างตู้แอร์แบบนี้เหมาะกับรถยนต์ที่เพิ่งออกมาใหม่ เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายเสร็จไวโดยใช้เครื่องล้างตู้แอร์ ซึ่งวิธีนี้หากเป็นรถเก่าที่ใช้มาเกิน 5 ปีแล้วช่างจะไม่แนะนำใช้ล้างแอร์ด้วยวิธีนี้ เพราะตู้แอร์อาจรั่วแล้วทำให้ฝุ่นไปอุดรูรั่วไว้ พอล้างเอาฝุ่นและสิ่งสกปรกออกมา ก็ทำให้เกิดปัญหาแอร์รั่วนั่นเอง

• การฉีดสเปรย์ทำความสะอาดตู้แอร์
  วิธีนี้แม้จะเป็นการทำความสะอาดที่ง่ายและสะดวกสบายเพียงแค่ใช้สเปรย์ฉีดทำความสะอาดให้ทั่วคอยล์เย็น และปล่อยให้น้ำยาออกมาพร้อมกับน้ำแอร์ตามท่อน้ำทิ้ง เพียงเท่านี้ก็เสร็จง่ายได้รวดเร็ว แต่ก็สิ้นเปลืองมากกว่า 2 วิธีแรก เนื่องจากจะต้องทำบ่อยประมาณ 2-3 ครั้งต่อเดือน 

ล้างแอร์วิธีไหนคุ้มค่าที่สุด?

คำแนะนำของศูนย์บริการและอู่ซ่อมโตโยต้า เก่งๆ แนะนำก็คือวิธีการถอดตู้แอร์ออกมาล้างนั้นย่อมสะอาดและดีกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษาแอร์รถยนต์ของคุณ ซึ่งถ้ารถยนต์ของคุณเป็นรถใหม่ที่มีการดูแลระบบแอร์เป็นอย่างดี (ดังที่เรากล่าวไปแล้วในการดูแลระบบแอร์รถยนต์เบื้องต้น) ก็อาจจะเลือกวิธีการล้างแอร์แบบไม่ถอดล้างก็ย่อมได้ แต่หากคุณใช้งานรถไปในระยะเวลาที่นานมากกว่า 20,000 กม. ก็ควรเลือกวิธีแบบถอดจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า นั่นเอง

• ทุก ๆ ระยะทาง 30,000 กม.
  เมื่อหน้าปัดรถเข้าระยะที่ 30,000 กม. ควรเปลี่ยนอุปกรณ์สำคัญอย่างรีซีฟเวอร์ ดรายเออร์ (Receiver Dryer) ที่ทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกและความชื้นจากระบบแอร์ ซึ่งอู่ซ่อมโตโยต้า เก่งๆ จะรู้ดีว่าอุปกรณ์ตัวนี้เมื่อเริ่มการใช้งานไปก็จะเสื่อมลงเรื่อย ๆ อยู่ตลอดเวลา และถ้าหากสารทำความเย็นมีความชื้นปนอยู่ก็จะทำให้เกิดการกัดกร่อนชิ้นส่วนต่าง ๆ และ Evaporator จะกลายเป็นน้ำแข็ง ทำให้สารทำความเย็นในระบบแอร์ไหลไม่สะดวกนั่นเอง
  
  
• ระยะทางประมาณ 50,000 กม.
  ส่วนใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์ยี่ห้อต่าง ๆ รวมถึงรถยนต์โตโยต้าจะแนะนำให้เปลี่ยนเอ็กซ์แพนชันวาล์ว (Expansion Valve) เมื่อคุณใช้รถยนต์ไปแล้วประมาณ 50,000 กม. หรือการใช้งานรถยนต์ประมาณสองปีกว่า ๆ ซึ่งเอ็กซ์แพนชันวาล์นั้นมีหน้าที่ควบคุมการไหลของน้ำยาแอร์เหลวที่ผ่านเข้าไปยังอีวาพอเรเตอร์ และมีหน้าที่ช่วยลดความดันของสารทำความเย็นให้ต่ำลง จนสามารถระเหยเปลี่ยนสถานะเป็นไอได้ที่อุณหภูมิต่ำ ๆ ในอีวาพอเรเตอร์ 

โดยอู่ซ่อมโตโยต้า เก่งๆ จะรู้ดี หากว่าเอ็กซ์แพนชันวาล์มีปัญหาจะทำให้ระบบแอร์รถยนต์เกิดปัญหาตามมาได้มากที่สุด เช่น การฉีดสารทำความเย็นอาจเกิดการผิดพลาด, การอุดตันของแอร์ หรือการล้าของตัวสปริงภายในตัววาล์ว ก็จะก่อให้เกิดปัญหาอื่นตามมาได้

นอกจากนำรถยนต์เข้าอู่ซ่อมโตโยต้า เก่งๆ เพื่อล้างและเปลี่ยนอะไหล่ของระบบแอร์แล้ว คุณสามารถดูแลแอร์รถยนต์เบื้องต้นด้วยตนเองอย่างไรบ้าง?

• ไม่ควรตำแหน่งของเทอร์โมสตรัทไปที่ Cool อยู่ตลอดเวลา จะช่วยถนอมคอมเพรสเซอร์ไม่ให้ทำงานหนักมากจนเกินไปได้
• หากต้องขับรถยนต์ขึ้นเขา ควรเปิดกระจกและปิดแอร์ขณะขับบ้างสลับกันไป เพื่อลดภาระของคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ให้ทำงานหนักมาก นั่นเอง
• ขณะขับรถควรเช็กว่ากระจกทั้ง 4 บานปิดสนิทเรียบร้อยดีหรือไม่ เพราะหากว่ากระจกปิดไม่สนิท อากาศร้อนจากภายนอกจะเข้ามา ทำให้อุณหภูมิของห้องโดยสารเพิ่มขึ้นและทำให้แอร์รถทำงานหนักมากขึ้นได้
• อู่ซ่อมโตโยต้า เก่งๆ แนะนำให้ควรวิธีปิดการทำงานของเพรสเซอร์แอร์ แต่ยังให้พัดลมเปิดอยู่ทุกครั้งก่อนที่จะจอดรถอย่างน้อยประมาณ 5 นาทีโดยเฉพาะเวลากลางคืน ช่วยยืดอายุการใช้งานของอีวาพอเรเตอร์ (Evaporator) หรือคอยล์เย็นได้
• หมั่นทำความสะอาดแอร์รถยนต์ด้วยการใช้เครื่องเป่าลม และใช้น้ำฉีดแผงระบายความร้อนหน้าหม้อน้ำ จากนั้นใช้แปรงขนอ่อนขัดทำความสะอาดเพื่อเอาคราบฝุ่นและสิ่งสกปรกออก รวมถึงการรักษาความสะอาดภายในรถเป็นประจำ ด้วยเครื่องดูดฝุ่นเพื่อลดฝุ่นและเชื้อสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ในระบบแอร์ด้วย
• ตรวจสอบระดับน้ำยาแอร์เป็นระยะ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพในการทำความเย็นและป้องกันการกัดกร่อนของส่วนประกอบในระบบแอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ให้อู่ซ่อมโตโยต้า เก่งๆ ตรวจสอบท่อส่งแอร์ว่าไม่มีรอยรั่วหรือการกัดกร่อนหรือไม่? เนื่องจากสายส่งอากาศที่มีรอยรั่วสามารถทำให้ระบบแอร์ทำงานได้ไม่สมบูรณ์และเสียหายได้
• หากคุณไม่ค่อยได้ใช้รถยนต์ ให้คุณเปิดใช้งานระบบแอร์อย่างน้อย 10-15 นาทีในทุก ๆ สัปดาห์ เพื่อรักษาความสดชื่นของระบบและป้องกันการสะสมของคราบและเชื้อสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์

เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถใช้งานรถยนต์ไปในทุกฤดูกาลได้อย่างสบายใจ เพราะนอกจากรถยนต์ของคุณจะเย็นฉ่ำชื่นใจทุกครั้งใช้งานแล้ว การดูแลรักษารถยนต์และระบบแอร์ของคุณให้อยู่ในสภาพดีตลอดเวลา ก็ยังช่วยให้คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายยิบย่อยในการนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมโตโยต้า เก่งๆ ให้คอยซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ของคุณบ่อยครั้งเกินความจำเป็นได้นั่นเอง

และหากคุณกำลังหาอู่ซ่อมโตโยต้าที่มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานและช่างผู้ชำนาญการเฉพาะทาง ที่ HYBRID CAR [THAILAND] CO.,LTD. เราเป็นผู้นำด้านการซ่อมรถยนต์ไฮบริดแบบครบวงจร มาอย่างยาวนานด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี พร้อมอะไหล่แท้และมีมาตรฐานด้านความปลอดภัย และบริการหลังการซ่อมเป็นอย่างดี

หากสนใจสั่งซื้อหรือเปลี่ยนอะไหล่แท้โตโยต้า หรือมองหาอู่ซ่อมโตโยต้า เก่งๆ สามารถแอดไลน์มาสอบถามราคาหรือประเมินค่าอะไหล่ก่อนได้ที่ HybridCar (ประเทศไทย)

หากสนใจสามารถแอดไลน์มาสอบถามราคาหรือประเมินค่าอะไหล่ก่อนได้ที่

"เปิดบริการทุกวัน เวลาทำการ 09:00-18:00 น."
Line : @hybridcar  โทร : 02-098-2465 Facebook :  HybridCar.co.th